Please Don’t Come To The Villainess’ Stationery Store

“เมลเดนิกข์ วาเวลัว” หรือ “เมล” เป็นลูกสาวของท่านดยุค เมลทำธุรกิจเจ๊งมานับไม่ถ้วน สูญเสียเงินไปมหาศาล จนพ่อโมโหมาก ให้เงินก้อนสุดท้ายแล้วไล่เมลออกจากบ้าน เมลรับเงินมาแล้วก็เก็บข้าวของทันที
นั่นเพราะว่าเธอเพิ่งทะลุเข้ามาในนิยายผู้ใหญ่ ‘คู่รักอัศจรรย์’ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ‘รักต้องห้าม’ ซึ่งมี “เชอร์เรีย” น้องสาวต่างแม่ของเมลเป็นนางเอก ส่วนพระเอกก็คือ “ดยุคเลนน็อกซ์ เฮสส์แมน” คู่หมั้นผู้แสนเย็นชาของเมล และแน่นอน…เมลเป็นนางร้ายของเรื่องที่มีจุดจบคือความตาย แต่ แต่ แต่ เมล(คนปัจจุบัน) เธอจะทำในสิ่งที่อยากทำเท่านั้นค่ะคุณผู้โชมมมมม
เธอมีความฝันที่อยากเปิดร้านเครื่องเขียน เพราะในอดีตชาติ เธอเป็นเด็กกำพร้า แล้วเจ้าของร้านเครื่องเขียนที่เธอชอบไปยืนดูก็ใจดีกับเธอมาก เธอเลยอยากจะเปิดร้านเพื่อให้เด็กๆ ได้มีความสุขแบบเธอ
ย้อนกลับมาที่แม่ของเมล ซึ่งเป็นสายเลือดของ “มาร์ควิสคินนัว” ตระกูลที่ได้รับคำสาปจากมังกร พอแม่ตาย ดยุคก็เอาสมบัติของตระกูลคินนัวไปหมด เหลือตึกเก่าๆ หลังหนึ่งที่ตั้งอยู่หน้าอคาเดมี่ เป็นที่ๆ แม่ให้กับเมลไว้เป็นมรดก
ระหว่างทางไปที่ตึก เมลแวะที่ป่าช้าผีสิง เพราะในป่าช้ามีดาบศักดิ์สิทธิ์อยู่เล่มนึง เมื่อประมาณพันปีก่อนมีปีศาจออกอาละวาดสร้างความวุ่นวาย ในตอนนั้นได้มีอัศวินผู้กล้าหาญเสียสละตัวเอง เพื่อผนึกปีศาจ โดยตัวเขาก็ต้องถูกผนึกด้วยเช่นกัน
ในนิยายออริจินอล คนที่เจอดาบคือดยุคเฮสส์แมน คู่หมั้นของเมล แต่เมลหาได้แคร์ไม่ เธอดึงดาบออกมาและได้เจอกับอัศวินหนุ่ม “โดมินิก” อายุ 17 และล่อหลอกให้ทำสัญญาเป็นผู้คุ้มกันของเมล (และแรงงานทาส ฮาาาาา)
หลังจากนั้นทั้งสองก็ไปที่ตึกมรดก ช่วยกันรีโนเวทให้เป็นร้านเครื่องเขียนตามที่เมลต้องการ แต่ร้านที่(ควรจะ)สงบสุขของเธอและเต็มไปด้วยเด็กๆ ที่น่ารัก กลับถูกรบกวนด้วยด้วยคู่หมั้นเก่า เจ้าชายรัชทายาท เจ้าแห่งหอคอยเวทย์มนต์ และเหล่าวายร้ายต่างๆ!!